หน้าแรก
> วิถีแห่ง thesis > มโนมติที่คลาดเคลื่อนทางในวิจัยทางการศึกษา
มโนมติที่คลาดเคลื่อนทางในวิจัยทางการศึกษา
- ความนำ
- การตั้งชื่อเรื่องของโครงการวิจัย
- สภาพปัญหา ปัญหาการวิจัย คำถามการวิจัย
- วัตถุประสงค์ของการวิจัย และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจาก การวิจัย
- การเขียนสมมติฐานการวิจัย
- ข้อตกลงเบื้องต้น (Assumptions)
- นิยามเชิงปฏิบัติการ (Operational definition)
- ข้อจำกัดหรือความไม่สมบูรณ์ของการวิจัย (Limitation)
- การทบทวนวรรณคดีที่เกี่ยวข้อง (Literature review)
- กรอบการวิจัย (Research framework) กรอบความคิดเชิงทฤษฎี (Theoretical framework) กรอบความคิดในการวิจัย (Conceptual framework)
- ตัวแปรตาม ตัวแปรอิสระ ตัวแปรเกิน/แทรกซ้อนและตัวแปรเชื่อมโยง/สอดแทรก
- การวิจัยที่ใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกัน
- การใช้ผลการวิจัยเชิงคุณภาพไปอ้างอิงสู่ประชากร
- การเลือกทำวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจหรือความสะดวกส่วนตัวของผู้วิจัย
- การคำนวณขนาดตัวอย่างด้วยสูตร Yamane (1964) และสูตร Morgan (1970)
- จำนวนผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ในการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content validity)
- การหาความเที่ยง (Reliability) ของแบบสอบถาม
- การหาค่าความเที่ยงของเครื่องมือทั้งฉบับในกรณีมี Subtest หรือหลายส่วน
- การรายงานลักษณะการแจกแจงของภูมิหลัง (Background) ของกลุ่มตัวอย่างที่ให้ข้อมูล
- การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยควรยึดธรรมชาติของระดับการวัด (Level of measurement) ของตัวแปรที่ศึกษา
- จำนวนระดับ (Scale points) และการให้คะแนนของข้อความในมาตรวัดของลิเคิร์ท (Likert-type scales)
- การแปลผลค่าเฉลี่ยกรณีใช้แบบสอบถามความคิดเห็น
- ในการวิจัยเชิงสำรวจต้องนำค่าสถิติอ้างอิงสู่ค่าพารามิเตอร์ของประชากรเป้าหมาย
- ในการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของประชากร 2 กลุ่มด้วยการทดสอบแบบสองทาง (Two-tailed test) มีนัยสำคัญทางสถิติแล้ว ขยายความว่ากลุ่มใดมีค่าเฉลี่ยมากกว่ากันโดยพิจารณาค่าเฉลี่ย
- ข้อมูลทางการศึกษาที่ใช้ในการวิจัยมักเป็นข้อมูลหลายระดับ (Multi-level data) จึงควรใช้การวิเคราะห์พหุระดับ (Multi-level analysis)
- การอภิปรายผลและข้อเสนอ
คัดลอกมาจาก http://secondary.kku.ac.th/research/res02/misconcept.htm
หมวดหมู่:วิถีแห่ง thesis
ความเห็น (0)
Trackbacks (0)
ใส่ความเห็น
Trackback